การกินเค็มมีโทษต่อร่างกายอย่างไร

การกินเค็ม อาหารหลายคนย่อมใส่ใจเรื่องรสชาติและนำมาด้วยการปรุงแต่งรสต่างๆ ด้วยเครื่องปรุงหลากหลายเพื่อให้ได้รสเปรี้ยว เค็ม หวานและเผ็ดตามที่ต้องการ และเราก็รู้กันดีใช่มั้ยคะว่าการกินอาหารรสจัดนั้นไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ซึ่งวันนี้เราก็จะมาบอกเล่าถึง

การกินเค็ม โทษจากการกินเค็มให้ได้ทราบกัน  สำหรับการกินเค็มนั้น โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการโซเดียมต่อวันเพียงแค่ 1 ช้อนชาหรือประมาณ 2,400 มิลลิกรัมเท่านั้นค่ะ ในขณะที่หลายคนหันมากินเค็มมากเป็น 3 เท่าตัว ซึ่งหากยังไม่หยุดพฤติกรรมการกินเค็มดังกล่าว ก็ย่อมนำมาซึ่งปัญหาสุขภาพในภายหลังได้ เช่น

โรคความดันโลหิตสูง เนื่องจากร่างกายของเราจะมีไตซึ่งคอยทำหน้าที่ช่วยปรับระดับโซเดียมและน้ำภายในร่างกายให้คงความเหมาะสม  แต่หากร่างกายของเรามีปริมาณโซเดียมสูง การทำงานของไตก็จะหนักขึ้น เพราะไม่สามารถปรับระดับของโซเดียมให้เหมาะสมกับน้ำได้ ปริมาณของน้ำและโซเดียมจึงเพิ่มระดับสูงขึ้น ส่งผลให้เลือดซึ่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยพลอยสูงขึ้นตามยิ่งขึ้น และหากเลือดไหลผ่านไปยังเส้นเลือดมากก็ย่อมก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงตามมาได้ในที่สุดนั่นเอง  

โรคหัวใจ  การที่เรามีปริมาณเลือดในร่างกายสูงจนนำมาสู่ความดันโลหิตสูงนั้น ย่อมทำให้หัวใจเกิดการสูบฉีดเลือดที่หนักและมีภาวะหัวใจเร็วมากกว่าเดิม ไม่เพียงแค่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตแต่เพียงเท่านั้น เพราะปริมาณของโซเดียมยังทำให้เกิดภาวะร่างกายบวมน้ำและมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งหากเป็นมากๆ ก็อาจจะหนักถึงขั้นหัวใจวายได้ค่ะ

โรคไต หากเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไตก็ย่อมทำงานหนักสูงตามมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ไตทำงานเสื่อมประสิทธิภาพลง ไม่สามารถขับเอาของเสียออกไปจากร่างกายได้ กระทั่งก่อให้เกิดโรคไตเสื่อมและไตวายในที่สุด 

อัมพฤกษ์ อัมพาต  หากผู้ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูงนานและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจนอาการเบาบางลง ผนังหลอดเลือดก็จะได้รับการถูกทำลายจนนำมาสู่การทำลายอวัยวะในส่วนอื่นๆ ที่มีความสำคัญต่อมา โดยเฉพาะสมองที่มีโอกาสเสี่ยงในการเกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตมากที่สุด เพราะจะเกิดจากโรคหลอดเลือดในสมองแตก ตีบและตันนั่นเอง

อ่านบทความเพื่อเช็ค อาหารกับโรคมะเร็ง

อยากเป็นคนรวย คลิ๊ก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * 

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ข้อความนี้ถูกเขียนใน Default คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *