อาหาร กับโรคมะเร็ง เป็นโรคของเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายเป็นก้อนหรือเป็นตุ่มที่โตขึ้นผิดปกติเรียกว่า ”เนื้องอก” ซึ่งเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วกลายเป็นก้อนมะเร็ง สามารถทำลายเนื้อเยื่อใกล้เคียงและแพร่กระจายไปอวัยวะส่วนอื่นๆของร่างกายได้ เป็นโรคที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอนแต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุหรือแนวโน้มทำให้เกิดโรคมะเร็งได้แก่ อาหาร สารเคมี ฮอร์โมน พันธุกรรม การติดเชื้อเรื้อรัง ภาวะทุพโภชนาการ ฯลฯ
อาหาร ที่บริโภคเป็นปัจจัยหนึ่งที่สัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็ง ซึ่งหมายถึงสารก่อมะเร็งในอาหารชนิดต่างๆ ที่บริโภคเข้าไปแล้วสะสมในร่างกาย โดยสารก่อมะเร็งในอาหารแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือฟลาวัส3 1. สารก่อมะเร็งที่เกิดในธรรมชาติ คือ
เชื้อราที่เจริญเติบโตในอาหารแล้วสร้างสารพิษขึ้นทำให้เกิดโรคมะเร็ง เช่น เชื้อรากลุ่ม แอสเปอร์จิรัส เฟลวัส (Aspergillus Flavus) ที่พบทั่วไปในอากาศและสร้างสารพิษ แอฟฟลาทอกซิน (Aflatoxin)
ซึ่งทำให้เกิดโรคมะเร็งที่ตับเชื้อราชนิดนี้มักขึ้นในอาหารต่างๆ ที่เก็บไม่ดีมีความชื้นสูง โดยเฉพาะถั่วลิสง พริกป่น หอม กระเทียม ข้าวโพด ขนมปัง ฯลฯ และเชื้อราชนิดนี้ ไม่สามารถทำลายได้ด้วยความร้อนที่ใช้ในการประกอบอาหาร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารที่ขึ้นรา
2. สารก่อมะเร็งที่เกิดขึ้นโดย การเติมแต่งหรือจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การใช้สีย้อมผ้าในอาหาร หรือใช้สีผสมอาหาร (ชนิดสีสังเคราะห์) ในปริมาณมากเกินไป การใช้สารเคมีพวกยาฆ่าแมลงในปริมาณมากก่อให้เกิดปัญหาการตกค้างในผัก ผลไม้ ต่าง ๆkai2
3. สารก่อมะเร็งที่เกิดขึ้นจากกระบวนการประกอบอาหารและถนอมอาหาร เช่น การปิ้ง ย่าง รมควัน และทอดอาหารจนไหม้เกรียม โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูงเพราะเมื่อได้รับความร้อนสูงจะเกิดสารชนิดหนึ่ง เรียกว่า PAH (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ และการถนอมอาหารหรือเปลี่ยนลักษณะอาหาร
โดยมีการเติมสารเคมีลงไป เช่น การเติมดินประสิว หรือเติมไนเตรทและ ไนไตรท์ในเนื้อเค็ม ปลาเค็ม ปลาส้ม แหนม ไส้กรอก ฯลฯ ซึ่งสารไนไตรท์จะทำปฏิกิริยากับสารอะมีนที่มีอยู่ในเนื้อสัตว์ ทำให้เกิดสารใหม่ที่เรียกว่า “ไนไตรซามีน” ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งที่ตับและกระเพาะอาหาร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารเหล่านี้หรือถ้าบริโภคก็ไม่ควรบริโภคบ่อยๆหรือบริโภคในปริมาณมากเกินไป
อ่านบทความเพื่อเช็ค ดวงราศีไหนมีเกณฑ์ถูกหวย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ** * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *